อีลอน มัสก์ เทคโอเวอร์ หรือทำการฮุปกิจการของ Social Media ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกนั่นก็คือ Twitter 100% ผลกระทบคืออะไรแนวโน้มหลังจากนี้เธอจะเป็นอย่างไรและทำไมพี่เขาต้องการที่จะซื้อกิจการของ Twitter ด้วยนะครับ
มันเป็นข่าวใหญ่จริงๆ ครับในวงการเทคโนโลยีในวงการของธุรกิจนะครับเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2565ที่ผ่านมาหลังจากยื่นข้อเสนอมาอยู่สักพักนึงนะครับสำนักข่าวต่างประเทศก็ได้รายงานตรงกันนะครับว่าคณะกรรมการบริหารของ Twitter ครับได้บรรลุข้อตกลงเห็นชอบเปิดทางให้ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีระดับต้นๆของโลกเจ้าของ Tesla และ Space X สามารถเข้าซื้อกิจการของทวิตเตอร์รวมทั้งสิ้น 44000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 54.2 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้นนะครับ
การเข้าไปซื้อกิจการในครั้งนี้สิ่งที่มันจะเกิดก็คือการเปลี่ยนจากบริษัทมหาชนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ กลายมาเป็นบริษัทไพรเวท โดยที่ Twitter เนี่ยก็จะออกจากตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสหรัฐทันที ที่ข้อตกลงนี้บรรลุเสร็จสิ้นนะครับซึ่งผมคิดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณปลายปี 2022 ปีนี้ข่าวนี้ค่อนข้างสั่นสะเทือนนะครับเพราะว่ามันไม่ได้พูดเรื่องแค่ธุรกิจอย่างเดียวหรือว่าเรื่องของเราอย่างเดียวทวิตเตอร์เนี่ยที่มีผู้ใช้งานต่อวันนะคะประมาณ 200 ล้านคนทั่วโลกเนี่ยมันเป็นเรื่องของ เสรีภาพในการแสดงออก งแล้วก็มีแรงจูงใจที่จะซื้อกิจการอันนี้เพราะเรื่องนี้ด้วย
ผมจะมาไล่เรียงเหตุการณ์ให้ฟังแล้วก็วิเคราะห์ต่อในคำว่ากระทบที่เกิดขึ้นกับทวิตเตอร์และผู้ใช้งานอย่างทุกท่านนั้นจะเป็นอย่างไร
ไปที่ประเด็นแรกกันก่อนนะครับว่าเรื่องนี้มันมีที่มาที่ไปอย่างไรจะรายงานของ BBC ครับตั้งแต่วันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมานะครับนั่นก็คือการเข้าถือหุ้น 9.2 เปอร์เซ็นต์ ในทวิตเตอร์ของ อีลอนมัสก์
ตอนนั้น ข่าวเนี่ยคือว่าใหญ่มากเพราะว่า เขามาถือหุ้น 9.2 เปอร์เซ็นต์ ทำให้หุ้นของ Twitter ขึ้นไปประมาณ 25% โดยที่ อีลอนมัสก์ ได้ซื้อหุ้นของทวิตเตอร์ เป็นจำนวนกว่า 73 ล้านหุ้น ในวันที่ 14 มีนาคม 2565 หรือปี 2022 ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 2.89 พันล้านดอลลาร์ ทำให้เขากลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในบริษัท Twitter มากกว่าผู้ก่อตั้งอย่าง Jack Dorsey ที่ถือหุ้นอยู่ 2.25% เท่านั้น
ไปดู ท่าที ของผู้บริหาร Twitter กันบ้างดีกว่า เป็น CEO ของทวิตเตอร์ใหม่ๆถอดด้ามเลยนะครับก็ออกมา Twitter ความยินดีนะครับแล้วก็เชิญมาเนี่ยเข้าเป็นส่วนหนึ่งของทีมทวิตเตอร์แล้วก็นั่งเก้าอี้ในบอร์ดบริหารของบริษัทนะครับ
แล้วก็บอกนะครับว่า อีลอน มัสก์ เนี่ยจะนำคุณค่าสู่บอร์ดบริหารของทวิตเตอร์แล้วก็จะช่วยทำให้เราแข็งแกร่งในระยะยาวนะครับ แต่ว่าเหตุผลที่เชื้อเชิญเข้าไปเป็นคณะกรรมการบริษัทต้องแบบนี้ครับว่า ตำแหน่งคณะกรรมการบริษัทอยู่ประมาณ 11 ตำแหน่ง ถ้าเกิดว่าใครที่นั่งเป็นกรรมการบริหารด้วยนะครับจะไม่สามารถถือครองหุ้นได้มากกว่า 14.9 เปอร์เซ็น
หรือว่าไม่สามารถที่จะดำเนินการเทคโอเวอร์ได้ตามกฎระเบียบของบริษัทหรือว่า ตามกฎของกลตของสหรัฐนะครับ
ซึ่งจริงๆแล้วความ ตั้งใจของอีลอนมัสก์ มากกว่านั้นอยู่ แล้ว ตั้งแต่ตอนนั้นเขาแสดง ท่าทีชัดเจนนะครับว่าอยากจะเข้า 100% เลยด้วยซ้ำ
ในวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมาแม่ทัพ Twitter ก็แถลงข่าวอีกครั้งนึงนะครับว่า อีลอน มัสก์ เองปัดตกโอกาสที่จะเข้าไปในเป็นบอร์ดบริหารของทวิตเตอร์โดยที่ ใช้คำว่าไม่ใยดี ก็ว่าได้นะครับ ครับเขาบอกว่าแม้ อีลอน มัสก์ จะตัดสินใจเช่นนั้น นะครับแต่ว่า บอร์ดบริหารและ Twitter ก็ยังจะเปิดไอเดียต่างๆหรือว่าเสนอความคิดเห็นต่างๆของ อีลอนมัสก์ ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของพวกเขาเสมอนะครับ
ในที่สุดนะครับวันที่ 14 เมษายน ช่วงสงกรานต์ผมจำได้เลย ค่อนข้างดังมากนะครับสำหรับทุกที่เหมือนกันหมดนะครับระหว่างที่คนไทยกำลังสาดน้ำกำลังท่องเที่ยวกันอยู่ใน Breaking News ออกมาบอกว่า อีลอน มัสก์ ได้ทวิตข้อความ ผมได้ยื่นข้อเสนอไปแล้ว พร้อมกับแนบเอกสารที่เขาได้แจ้งความจำนงในการซื้อหุ้นของ Twitter 100% อย่างที่ผมกล่าวไปแล้วว่าเขาต้องการจะใช้คำนี้เลย เข้าพบกิจการทั้งหมด 100% ราคาต่อหุ้นอยู่ที่ 54.2 นะครับก็ คิดเป็นเงินมูลค่าประมาณ 43000 ล้านดอลลาร์นะครับ ซึ่งถือว่าอีลอนมัสก์ ให้ราคาสูงกว่ามูลค่าตามราคาตลาดณเวลานั้น พอสมควร ในขณะที่ราคาตลาดอยู่ที่ 37000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในอนาคตถ้า อีลอน มัสก์ เข้ามาดูแลเรื่องนี้ Twitter มันมีหลาย account นะครับที่โดนแบนพอสมควรเลยถ้า อีลอนมัสก์ เข้ามาเป็นหัวเรือใหญ่ก็มีโอกาสครับที่ว่าเขาจะปล่อยเลย ก็คือไม่ได้คิดว่าเรื่องแบบนี้จะจำเป็นจะต้องมานั่งกำหนดอะไรต่างๆเดี๋ยวเราต้องติดตามกันต่อว่าจะเป็นยังไงแต่ที่แน่ๆน่าจะฟรีมากขึ้น
ในส่วนของอัลกอริทึมของทวิตเตอร์ ในเวที Ted Talk เนี่ย อีลอนมัสก์ได้อธิบายรายละเอียดกับแผนการที่ทำให้ Modelเรื่องของอัลกอริทึมของบริษัทเป็น open source Model ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานเห็นโค้ดที่แสดงให้เห็นว่า โพสต์บางรายการปรากฏขึ้นในไทม์ไลน์มันเป็นอย่างไร
อีกข้อนึงที่ อีลอน มัสก์ ให้ความสนใจก็คือ ความสัมพันธ์บนแพลตฟอร์ม ก่อนที่จะเข้าสู่ Twitter นะครับ อีลอน มัสก์จำได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์บนแพลตฟอร์มโดยที่ แอคเค้าท์ ที่มีคนติดตามมากที่สุด 10 อันดับแรกของโลกไม่ว่าจะเป็น บารัคโอบามา Justin Bieber Katy Perry เนี่ยไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวมากนักนะครับ ซึ่งเขากังวลว่า หรือว่า Twitter กำลังจะตาย โดย มัสก์ ได้ตั้งเป้าที่จะเหมือนกระตุ้นให้มันมีการใช้งานเพิ่มมากขึ้นแล้วก็กำจัดพวก Bot อะไรต่างๆออกไป